คู่มือ หุ่นสวย ได้สุขภาพด้วยสลิมเวล

สลิมเวล อาหารทดแทนมื้ออาหาร

สูตรอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ผ่านการรับรองทางการแพทย์แล้ว

ใส่ใจอาหารการกินกันเถอะ

ยุคสมัยนี้กินอาหารอะไรก็ต้องคิดให้มาก เพราะว่าการมีสุขภาพดีแล้วเปล่งประกายออกมาเป็นความงามนั้นต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่เราป้อนเข้าไปในร่างกาย หากเราป้อนทุกอย่างที่ขวางหน้าเข้าสู่ร่างกายโดยไม่มีการคัดสรร ตามใจปาก ร่างกายก็จะสะสมแต่สิ่งที่ไม่ดีส่งผลต่อสุขภาพ ดังนั้นอาหารกับสุขภาพจึงสัมพันธ์กัน และส่งผลต่อความงามด้วย

 ร่างกายของคนเราในแต่ละวันมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้พลังงานที่มาจากอาหารที่เรากินเข้าไป ถ้าเรากินอาหารและได้รับพลังงานมากกว่าพลังงานที่เราใช้ไปในการทำกิจกรรมแต่ละวัน พลังงานที่เหลือโดยเฉพาะไขมันที่ได้รับมากเกินความต้องการก็จะถูกนำไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิด  “โรคอ้วน”  ซึ่งคนส่วนใหญ่มักมองข้ามผลกระทบดังกล่าว เพราะคนที่อ้วนมีโอกาสเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากกว่าคนปกติ 2-10 เท่า เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคระบบทางเดินหายใจ โรคข้อ โรคเก๊าต์ และโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์

“โรคอ้วน” กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ลุกลามไปทั่วโลก องค์การอนามัยโลกแจ้งว่า ตอนนี้มีคนอ้วนมากเกินกว่า 2,000 ล้านคน ในประเทศไทยก็มีปัญหาเรื่องความอ้วนเพิ่มขึ้นมากมาย สาเหตุมาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคนไทย ที่รับประทานอาหารตะวันตกมากขึ้น เช่น ฟาสฟู้ด เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว  มีกิจกรรมน้อยลงใช้เทคโนโลยีช่วยมากขึ้น มีรีโมทควบคุม มีรถยนต์ ทำให้เราทำงานน้อยลง เดินน้อยลง และ ออกกำลังกายน้อยลง ปัจจุบันธุรกิจเกี่ยวกับลดน้ำหนักเกิดขึ้นมากมาย จนมีมูลค่านับหมื่นล้านบาท   เช่น   ยาลดน้ำหนัก อาหารเสริม ครีมลดสัดส่วน สถาบันความงาม สถาบันลดน้ำหนัก ชุดชั้นในลดสัดส่วน ฟิตเนต กาแฟลดน้ำหนัก และอื่น ๆ อีกมากมาย หากพิจารณาจะพบว่าธุรกิจเหล่านี้ เติบโตขึ้นมากมาย แต่คนอ้วนในประเทศไทยกลับไม่ลดลงเลย มีแต่เพิ่มขึ้น และความจริงที่น่าตกใจก็คือบางวิธีกลับทำให้ปัญหายิ่งแย่ลง ทำให้คนที่อ้วนอยู่แล้วกลับมีสภาพแย่ลงไปอีก

รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นโรคอ้วน

การสำรวจตัวเองด้วยสายตาหรือพิจารณารูปร่างของตัวเองหน้ากระจก ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า “เราเป็นคนอ้วนหรือเปล่า ? ” จำเป็นต้องใช้วิธีการตามหลักสากลสำหรับการประเมินหาโรคอ้วน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

1. การวัดเส้นรอบเอว โดยใช้สายวัด วัดรอบเอวผ่านสะดือและวัดในช่วงหายใจออก (ท้องแฟบ)

 ผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้ว   ผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว

2. การคำนวณหาสัดส่วนระหว่างเส้นรอบเอวกับเส้นรอบสะโพก (WAIST – HIP RATIO : WHR) : โดยคำนวณความยาวของการวัดรอบเอว (จากข้อ 1) มาหารด้วยความยาวของรอบสะโพก  

ผู้ชายต้องมีค่าไม่เกิน 1.0     ผู้หญิงต้องมีค่าไม่เกิน 0.8

3. การหาค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI)

เป็นวิธีที่สะดวกตรวจสอบได้ง่าย และใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งสามารถคำนวณโดยใช้สูตรดังนี้

BMI = น้ำหนัก (กก.) / ส่วนสูง² (เมตร)

ดัชนีมวลกายเท่าไหร่จึงถือว่าอ้วน

คนที่เป็นโรคอ้วนจะมีปัญหา เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท กรน หยุดหายใจขณะนอนหลับ ปวดหลัง ปวดเข่า ข้อเข่าข้อเท้าเสื่อมเร็ว หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้น กลิ่นตัวแรง กลิ่นปากแรง โรคเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใช้เงินและเวลาในการรักษาค่อนข้างมาก (โรคละลายทรัพย์) คนที่เป็นจึงต้องสูญเสียเงิน เวลา และแรงใจในการรักษาให้หาย (หรือทำได้เพียงไม่ให้มีอาการที่แย่ลง)  ข้อมูลทางการแพทย์ชี้ชัดเจนว่า คนที่เป็นโรคเหล่านี้เมื่อลดน้ำหนักลงอาการที่เกี่ยวกับโรคเหล่านี้  ก็จะดีขึ้นตามลำดับ

ร่างกายเราต้องการพลังงานประมาณเท่าไหร่

ความต้องการพลังงานแบ่งตามอายุและเพศ  

สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักจะต้องวางแผนควบคุมพลังงานที่ได้รับ ไม่ให้เกินความต้องการของร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมพลังงานส่วนเกินจนเกิดภาวะอ้วนได้ และหากต้องการลดน้ำหนักส่วนเกินจะต้องลดพลังงานที่ได้รับไม่ให้มากกว่าความต้องการของร่างกาย

พลังงานในอาหารแต่ละชนิด           

1.แหล่งอ้างอิง : กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

2.* ดูรายละเอียดพลังงานอาหารชนิดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ใน www.prowellnutritions.com

3. ^***อาหารที่ให้พลังงานสูงควรเลือกรับประทานให้เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของร่างกาย

สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักจะต้องควบคุมพลังงานที่ทานเข้าไปให้ไม่เกินกว่าความต้องการพลังงานของร่างกายในแต่ละวัยหรือช่วงอายุ  (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหน้า 2) ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานต่ำจะช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ตามต้องการ โดยสลิมเวล 1แก้ว (250 มิลลิลิตร) 60กรัม / 3ช้อนตวง / 1ซอง ให้พลังงานเพียง 218 กิโลแคลอรี และมีสารอาหารครบถ้วน สะดวก ชงง่าย รสชาติอร่อย จะช่วยคุณได้ หรือรับประทานอาหารอื่น ๆ ได้ แต่ต้องระมัดระวังอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยเฉพาะอาหารที่มีสัญลักษณ์  ^***

หมายเหตุ  พลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ เช่น มื้อกลางวันเลือกรับประทาน ข้าวขาหมู 1 จาน (690 กิโลแคลอรี), กาแฟเย็น 1 แก้ว (115 กิโลแคลอรี), ชมพู่ 2 ผล (60 กิโลแคลอรี) และมะละกอ 3 ชิ้น (30 กิโลแคลอรี) ดังนั้นมื้อนี้เราจะได้รับพลังงานทั้งหมด 690+115+60+30 = 895 กิโลแคลอรี และอาจได้รับไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูงเกิน หากรับประทาน สลิมเวล 2 มื้อ (รวมมื้ออาหารว่าง 1 มื้อ) จะได้รับพลังงานเพียง 436 กิโลแคลอรี (น้อยกว่าอาหารปกติถึง ½ เท่า / มื้อ) และ ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมตามที่ร่างกายต้องการ

การลดน้ำหนักที่ถูกวิธี

สิ่งที่ร่างกายต้องการเพื่อให้ร่างกายทำงานได้ ก็คือ “สารอาหาร” อาหารที่เรารับประทานเข้าไปร่างกายจะดูดซึมเฉพาะสารอาหารเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็จะถูกขับออกมา สารอาหารหมายถึง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ ที่มีอยู่ในอาหารที่เรารับประทาน ในการลดน้ำหนักที่ถูกต้องนั้น เราจะต้องรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เรารู้สึกอิ่มเราจะไม่หิว โดยเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำ ควบคุมปริมาณอาหาร  ออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต  เพื่อที่ร่างกายจะได้รับพลังงานจากอาหารที่รับประทาน น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ ร่างกายจะได้ดึงไขมันส่วนเกินมาใช้ น้ำหนักก็จะลดลงได้ตามธรรมชาติโดยสอดคล้องกับ หลักการทางการแพทย์  คือ ห้ามทานยาลดน้ำหนัก ห้ามอดอาหาร ควบคุมปริมาณอาหาร  รับประทานผักเยอะ ๆ  รับประทานคาร์โบไฮเดรตน้อย ๆ ออกกำลังกายด้วยก็ยิ่งดี โดยมีรายละเอียดอย่างครบถ้วน ดังนี้

1. ต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ ในทุก ๆ วัน โดยแต่ละมื้อต้องมีสารอาหารครบถ้วน 5 หมู่ (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ และวิตามิน)  เพื่อให้ร่างกายสามารถรักษาระดับการเผาผลาญพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอ และจะไม่รู้สึกหิว
2. รับประทานอาหารที่ให้พลังงานต่ำ  เพื่อให้ได้พลังงานน้อยกว่าความต้องการของร่างกาย ร่างกายจะได้นำไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้ อาหารพลังงานต่ำได้แก่ ผัก รับประทานให้ครบทุกมื้อ ผลไม้ รับประทานได้พอควรมื้อละ 1 ส่วน งดอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยเฉพาะ ข้าว ไขมัน กะทิ แป้ง น้ำตาล
3. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ โดยรับประทานโปรตีน 1.0 กรัม / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อให้น้ำหนักที่ลดลงเป็นไขมันไม่ใช่กล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยรักษาระดับการเผาผลาญให้คงที่หรือช่วยปรับระดับการเผาผลาญที่เสียไปให้ดีขึ้นทำให้เมื่อเราหยุดลดน้ำหนัก น้ำหนักของเราจะไม่เพิ่มขึ้น (ไม่เกิดปรากฏการณ์โยโย่)
4. สัดส่วนพลังงาน จากโปรตีน 20-50% / คาร์โบไฮเดรต ไม่เกิน 30% ในรูปน้ำตาล / ไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงานทั้งหมด ที่ได้จากอาหารที่รับประทาน (ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง อาหารทดแทนมื้ออาหารและอาหารควบคุมน้ำหนัก ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 121 (พ.ศ.2532)
5. รับประทานผักผลไม้หลากหลายสีสันสลับกันไป โดยรับประทานผักอย่างน้อยมื้อละ 1 ถ้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน (แร่ธาตุและวิตามิน) จะได้ไม่หิวง่าย และไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ (รับประทานผลไม้แต่พอควรมื้อละ 1 ส่วน เช่นชมพู่ 2 ผล ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้มเขียวหวาน 1 ผล ที่ไม่หวานมาก)
6. ดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรขึ้นไป เพื่อให้การเผาผลาญไขมันส่วนเกิน รวมถึงการขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกายมีประสิทธิภาพและยังช่วยให้มีผิวพรรณสดใส โดยให้สังเกตจากอาการปากแห้งและปัสสาวะเหลือง เป็นเครื่องวัดว่าดื่มน้ำพอหรือยัง
7. นอนวันละ 8 ชั่วโมง เพราะหากเรานอนน้อยเกินไปร่างกายจะทำงานผิดเพี้ยนแล้วทำให้อ้วนขึ้นได้ ส่วนการนอนมากเกินไปก็ทำให้ร่างกายเผาผลาญต่ำลงได้
8. ออกกำลังกายให้หนัก ในระดับที่หัวใจเต้น 60-80% ของอัตราการเต้นสูงสุดในแต่ละวัน ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จำนวน 3-6 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรักษาระดับการเผาผลาญให้คงที่
9. ควบคุมน้ำหนักต่อไปอีกอย่างต่อเนื่องหลังจากได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว  โดยปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง และการใช้ชีวิตประจำวันที่เพิ่มการใช้พลังงานในร่างกายและออกกำลังกายให้สามารถควบคุมอาหารได้อย่างต่อเนื่องไม่กลับมาอ้วนอีก

   ---

"ทั้งหมดข้างต้นคือคุณสมบัติเฉพาะของสลิมเวล สูตรเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมและลดน้ำหนัก มีงานวิจัยผ่านการรับรองทางการแพทย์ได้ผลที่ดีทั้งลดน้ำหนักไดจริง และได้สุขภาพที่ดีขึ้น ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงงโรคNCDs"

สลิมเวล อาหารทดแทนมื้ออาหารสูตรอาหารควบคุมและลดน้ำหนัก มีสารอาหารครบถ้วน อัตราส่วนเหมาะสมโดยเน้นโปรตีนและใยอาหารสูง ช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้โดยสอดคล้องตามหลักการทางการแพทย์

สะดวก อิ่มท้อง ปลอดภัย  และมั่นใจ ควบคุมพลังงานที่รับประทานได้ง่ายขึ้น ทำให้คุมน้ำหนักและลดน้ำหนักได้ตามต้องการ

รับประทานทดแทนมื้ออาหารอย่างน้อยวันละ 2 มื้อ เพื่อลดน้ำหนัก และปัญหาNCDs

รับประทานทดแทนมื้ออาหารวันละ 1 มื้อ เพื่อควบคุมน้ำหนัก ได้สุขภาพ

สลิมเวล อาหารทดแทนมื้ออาหาร

สูตรอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

ผ่านการรับรองทางการแพทย์แล้ว

            สลิมเวล อาหารทดแทนมื้ออาหารชนิดผงชงดื่ม เครื่องหมายการค้า”โปรเวล” เพื่อการควบคุมและลดน้ำหนักภายใต้หลักการทางโภชนาการ ให้พลังงานเพียง 216-218 กิโลแคลลอรี ประกอบด้วยสารอาหารครบทั้ง5หมู่ มีโปรตีนและไฟเบอร์ปริมาณสูง คาร์โบไฮเดรตและไขมันต่ำ โดยเลือกสรรสารอาหารคุณภาพสูง ได้แก่ เวย์สกัดเชิงเดี่ยว(WPI) ไฟเบอร์อินูลิน น้ำมันโอเมก้าครบ 3-6-9 และ MCT คอลลาเจนสกัดจากปลาสูง แคลเซี่ยมจากนม กรดอะมิโนแบบกิ่ง (BCAA). มีวิตามินและแร่ธาตุครบถึง 29ชนิด รวมทั้ง กรดอะมิโนครบทั้ง 20ชนิด และเสริมด้วยสารช่วยเร่งการเผาผลาญสร้างพลังงาน ลดไขมัน ได้แก่ แอล-คาร์นิทีน แอล-เฟนนิลอะลานิน อิโนซิทอล โคลีน ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักไปให้ถึงเป้าหมายโดยไม่มีผลเสียต่อร่างกายและปรากฎการโยโย่หลังเลิกรับประทาน ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแลคโตส ไม่มีกลูเต้นท์  มี 4รสให้เลือก ข้าวโพด กาแฟ ชาเขียวสกัด โกโก้  มีผลวิจัยรับรองโดยคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล และขึ้นทะเบียนบัญชีสินด้านวัตกรรมไทย เลขที่ 14000012 (พย. 2560)

• ไม่เติมน้ำตาล  เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาล
• ไม่มีแลคโตส  เหมาะสำหรับ ผู้ที่แพ้นมวัว
• ไม่มีกลูเต็นท์  เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้โปรตีนจากแป้งสาลี

คุณสมบัติ

• สารอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มทดแทนมื้ออาหารได้
• โปรตีนคุณภาพสูงจากเวย์เชิงเดี่ยว(WPI) ใยอาหารสูง แต่คาร์โบไฮเดรตและไขมันต่ำ
• ให้พลังงานต่ำเพียง 216-218 กิโลแคลลอรีต่อซองต่อมื้อเท่านั้น
• วิตามินและเกลือแร่ครบทั้ง 29 ชนิด มีกรดอะมิโนครบทั้ง 20ชนิด
• มีกรดไขมันโอเมก้า 3-6-9 และ MCT 
• เสริมคอลลาเจนไฮโดรไลเสทจากปลา
• เสริมแคลเซี่ยมจากนม เสริมกรดอะมิโนสายกิ่ง (BCAA) สร้างกล้ามเนื้อ
• เสริมแอล-คาร์นิทีน แอล-เฟนนิลอะลานีน โคลีน อิโนซิทอล
• มีผลวิจัยรับรองโดยคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล 
• ขึ้นทะเบียนบัญชีสินค้านวัตกรรมไทย เลขที่ 14000012 (พย. 2560)
• ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแลคโตส ไม่มีกลูเต้นท์
• มี 4รสให้เลือก ข้าวโพด กาแฟ ชาเขียวสกัด โกโก้  

การรับประทานสลิมเวล สูตรอาหารควบคุมและลดน้ำหนัก

วิธีที่ 1 รับประทานแทนมื้ออาหาร สามารถรับประทานโดยตักสลิมเวล 3ช้อน(60ก)/แก้ว (250 มล.) ต่อมื้อ อย่างน้อย 2มื้อ ต่อวัน ทำให้ลดพลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหารปกติได้ และหากลดพลังงานที่ได้รับลงไปวันละ 500 กิโลแคลอรี จะทำให้ลดน้ำหนักลงได้ประมาณ 0.5 กก./สัปดาห์ 

การที่ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน มีโปรตีนสูง ใยอาหารสูง และแคลเซียมจากธรรมชาติสูง จะทำให้รู้สึกอิ่ม(ไม่หิว) ส่วนการให้พลังงานต่ำก็จะทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องอดอาหาร นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยช่วยให้เราลดน้ำหนักได้อย่างมีความสุขไม่ทุกข์ทรมานใจและมีประสิทธิภาพสูง  ถูกหลักโภชนาการได้สุขภาพที่ดีขึ้น คุณเองจะรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะรูปร่าง สัดส่วน ผิวพรรณ หน้าตา ความกระฉับกระเฉง ความสดชื่นแจ่มใส

วิธีนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมื้อปกติไม่เกิน 1 จาน(ขนาดปกติ) / มื้อ ซึ่งสามารถรับประทานสลิมเวล  1 แก้วทดแทนมื้ออาหาร 1 มื้อก็จะรู้สึกอิ่มและที่สำคัญได้รับสารอาหารครบถ้วนได้สุขภาพที่ดี

วิธีที่ 2 รับประทานก่อนอาหาร  เลือกรับประทานสลิมเวล ก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อปกติ จะทำให้ไม่รู้สึกหิวและรับประทานอาหารในมื้อนั้นได้น้อยลงทำให้ได้พลังงานจากมื้ออาหารน้อยลง เช่น รับประทานสลิมเวล 1 แก้วได้พลังงาน 218 กิโลแคลอรี และรับประทานอาหารในมื้อนั้นได้เพียงครึ่งจาน (ยกตัวอย่างอาหารจาก 600 กิโลแคลอรีเหลือ 300 กิโลแคลอรี) รวมเป็นพลังงาน 518 กิโลแคลอรีต่อมื้อ ถ้ารับประทานวิธีเดียวกันนี้ 3 มื้อจะได้พลังงาน 1548 กิโลแคลอรีต่อวัน หากปกติร่างกายเราต้องการพลังงาน 2000 กิโลแคลอรี เราก็จะได้พลังงานจากอาหารที่รับประทานน้อยกว่าพลังงานที่เราเคยได้รับวันละประมาณ 500 กิโลแคลอรี  มีผลทำให้น้ำหนักลดลงประมาณ 0.5 กิโลกรัม / สัปดาห์ หรือ ประมาณ 2 กิโลกรัม / เดือน

วิธีนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมื้อปกติมากกว่า 1 จาน หรือ 1 จาน (ขนาดใหญ่กว่าจานปกติ)ซึ่งสามารถรับประทานสลิมเวล 1 แก้ว ก่อนมื้ออาหาร จะทำให้ไม่รู้สึกหิวและรับประทานอาหารมื้อปกติได้น้อยลงหรือหากต้องการรับประทานสลิมเวลอย่างเดียวเพื่อทดแทนมื้ออาหาร สามารถรับประทานได้มากกว่า 1 มื้อ ( 1½ หรือ 2 มื้อ) เพื่อให้อิ่มท้อง โดยยังคงได้รับพลังงานน้อยกว่าอาหารปกติ

อาหารว่างระหว่างมื้อถ้ารู้สึกหิว                                                       

เราต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อเพื่อเติมสารอาหารให้ร่างกายตลอดเวลา โดยแบ่งเป็นอาหารหลัก 3 มื้อ และ อาหารว่าง 1-2 มื้อ ที่สำคัญเราต้องไม่ปล่อยให้ท้องว่างจากอาหารมากกว่า 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้รู้สึกหิวและรับประทานอาหารปริมาณมากในมื้อนั้น ๆ อาหารว่างระหว่างมื้อที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารที่ให้พลังงานต่ำ (ไขมันต่ำ คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูง ใยอาหารสูง) ตัวอย่างอาหารว่างพลังงานต่ำ ได้แก่ สลิมเวล ½ - 1 แก้ว หรือผลไม้ 1 ส่วน (ชมพู่ 2ผล  ฝรั่ง แอปเปิ้ล  ส้มเขียวหวาน 1ผล ที่ไม่หวานมาก มะละกอ แคนตาลูป สับปะรด 6-8 ชิ้น /คำ) นม(ไขมัน 0%) 1 กล่อง

จะเห็นว่ามื้อเที่ยงกับมื้อเย็น ห่างกันเกิน 4 ชั่วโมง คือประมาณ 6 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะฉะนั้นควรมีสลิมเวลเป็นอาหารว่าง ตอนประมาณ 16.00 น. หากจะรับประทานอาหารอื่นให้ระวังชนิดของอาหารและปริมาณพลังงาน ควรมีปริมาณเป็น 1 ใน 3 ของอาหารหลัก (เทียบจากมื้อเย็น) เท่านั้น อย่าเผลอกินอาหารว่างในปริมาณเท่า ๆ กับอาหารหลักก็แล้วกัน เพราะจะทำให้ใช้พลังงานไม่หมดและจะสะสมในรูปไขมันในร่างกาย ผลคือแทนที่จะผอมกลับกลายเป็นอ้วนขึ้นมาอีกได้

สามารถเลือกรับประทานสลิมเวล เป็นอาหารว่างเมื่อรู้สึกหิว ได้ดังนี้

หรือ

ถ้าคุณกินอาหารมื้อเช้า 6 โมงเช้า กว่าจะถึงมื้อเที่ยงก็เป็นระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมงซึ่งนานเกินไป จึงควรมีสลิมเวลเป็นอาหารว่างตอน 10 โมง ถ้าไม่มีอาหารว่างระหว่างมื้อเช้ากับเที่ยงแล้ว จะทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำลงมาก พอถึงตอนเที่ยงจะทำให้อยากกินอาหารมากกว่าปกติแบบควบคุมตัวเองไม่ได้ในมื้อกลางวัน

วิธีแก้ก็คือ ควรกินอาหารว่างระหว่างมื้อที่นานเกิน 4 ชั่วโมง การรับประทานอาหารช้า ๆ เคี้ยวแต่ละคำพอประมาณ 30 ครั้ง จะทำให้เราใช้เวลานานขึ้นและอิ่มเร็ว เนื่องจากสมองต้องใช้เวลาในการรับรู้ว่าอิ่ม ประมาณ 20 นาที

หลักการลดความอ้วนให้จำง่าย ๆ คือ

Slow – Digestion (ย่อยช้า) Slow – Absorption (ดูดซึมช้า)

สารอาหารหลัก (แมคโคนูเทรียน) ที่ประกอบเป็นสลิมเวล

มาจากการคัดสรรแหล่งของวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ ดังนี้

โปรตีน (Protein) เป็นกลุ่มที่เข้ามาช่วยให้การลดความอ้วนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ง่าย และรวดเร็วขึ้น เพราะการลดความอ้วนนั้นจะลดเฉพาะแป้งและน้ำตาลอย่างเดียวคงไม่พอแต่คุณต้องเพิ่มปริมาณโปรตีนมากกว่าปกติเล็กน้อยด้วย หมวดโปรตีนได้แก่ พวกเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ นม ชีสและถั่วทุกชนิด โปรตีนจะเข้าไปผสมปนอยู่กับแป้งและน้ำตาล โดยทำตัวเปรียบเสมือนเป็นฉนวนคอยปิดกั้นแป้งและน้ำตาลให้กลายเป็นกลูโคสอย่างช้า ๆ จึงทำให้ใช้ได้จนหมด ไม่เหลือให้กลายเป็นไขมันสะสมกับร่างกายจึงไม่ทำให้อ้วน เพราะฉะนั้นถ้าต้องการจะลดความอ้วนต้องกินอาหารให้ครบทุกหมู่และต้องมีโปรตีนเพียงพอเท่านั้น จึงทำให้เกิดการกระตุ้นเอาไขมันเก่าออกมาใช้ ดังนั้นโปรตีนจึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ โอกาสสะสมไขมันลดลง ทำให้เรารู้สึกอิ่ม และอาการอยากรับประทานอาหารหวานก็ลดลง  

สลิมเวล คัดสรรแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง โดยมีความเข้มข้นของโปรตีนในวัตถุดิบแต่ละชนิดไม่น้อยกว่า 90% ดังนี้

• เวย์โปรตีนเดี่ยว (Whey Protein Isolated) จะมีกรดอะมิโนที่จำเป็น 8 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้และพบในอัตราที่สูง เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็วและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มี 27% ของแหล่งโปรตีนทั้งหมด
• เคซีน(Casein) โปรตีนจากนม พบว่ามีกรดอะมิโน เมไธโอนีน วาลีน โพรลีน ไทโรซีน และ กลูตามิกสูง  มี 27% ของแหล่งโปรตีนทั้งหมด
• ซอยโปรตีนไอโซเลต (Soy Protein Isolated) โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง พบว่ามี เฟนิลอะลานีน  ฮีสทีดีน  อาร์จีนีน แอสพาติก และไกลซีนสูง มี 19% ของแหล่งโปรตีนทั้งหมด
• คอลลาเจนไฮโดรไลเซท จากปลาทะเล (Fish Collagen Hydrolysate) ประกอบด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด ช่วยลดความร้อนในขณะหลับ ช่วยให้เรือนร่างสมส่วนและช่วยให้ผอม โดยผิวพรรณไม่เหี่ยวย่นดูแก่ก่อนวัย มี 27% ของแหล่งโปรตีนทั้งหมด

โปรตีนทั้ง 4 แหล่งรวมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้ได้กรดอะมิโนครบถ้วน 18 ชนิดในอัตราส่วนที่สูง โดยเฉพาะกรดอะมิโนจำเป็น*** (คิดเป็น 35% ของกรดอะมิโนทั้งหมด) ที่ร่างกายต้องการและไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ จำเป็นต้องได้เพิ่มจากอาหารเท่านั้น

       ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโปรตีน 15.92 กรัม คิดเป็น 29% ของพลังงานทั้งหมด 

  นอกจากนี้สลิมเวล ยังเสริมด้วยกรดอะมิโนชนิด แอล-คาร์นิทีน และทอรีน ทำให้สลิมเวลมีกรดอะมิโนครบถ้วน 20 ชนิด

ตารางแสดง กรดอะมิโนในสลิมเวล ดังนี้

ประโยชน์ของกรดอะมิโน

• วาลีน: เป็นที่ต้องการในการเผาผลาญพลังงานในกล้ามเนื้อซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสำหรับดูแลรักษาความสมดุลของไนโตรเจนในร่างกายใช้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ช่วยในการรักษาตับและโรคจากถุงนํ้าดี
• ลิวซีน: ทำงานคู่กับไอโซลิวซีน และวาลีน ช่วยรักษาเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ผิวหนังและกระดูก ช่วยในการฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังผ่าตัด ลดนํ้าตาลในเลือดช่วยในการเพิ่มการผลิตโฮโมนสร้างพลังงาน กระตุ้นการทำงานของสมองส่วนบน ช่วยให้ร่างกายกระปรี่กระเปร่า
• ไอโซลิวซีน: เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับรูปร่างของเม็ดเลือดแดงควบคุมนํ้าตาลในเลือด และช่วยในการรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื้อ กล้ามเนื้อและกระดูก
• ทรีโอนีน: ช่วยรักษาสมดุลในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสร้างรูปร่างของคอลลาเจน อีลาสติน และเคลือบฟัน ช่วยให้ตับและไขมันในตับทำหน้าที่เมื่อรวมตัวกับกรดแอสพาร์ติก และ เมธิโอนีนทำให้ไม่เกิดการสร้างไขมันในตับ 
• ทริปโตเฟน: เป็น สารตั้งต้น ของสารส่งผ่านประสาท เซโรโทนิน(serotonin)
• เมไธโอนีน: มีอำนาจต่อต้านอนุมูลอิสระและเป็นแหล่งซัลเฟอร์ซึ่งป้องกันความผิดปกติของผม ผิวหนังและเล็บ ช่วยขจัดสารพิษ เช่น สารตะกั่ว และสารหนู ช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อ ป้องกันความเปราะบางของเส้นผม
• เฟนิลอะลานีน: ช่วยกระตุ้นความตื่นตัวและพละกำลัง ยกระดับอารมณ์ ลดความเจ็บปวดช่วยในการเรียนรู้และจดจำ ช่วยในการรักษาภาวะข้อต่ออักเสบ โรคซึมเศร้า ปวดประจำเดือน ไมเกรน ความอ้วน โรคจิตบางประเภท   
• ไลซีน: ควบคุมการดูดซึมแคลเซียมให้เพียงพอ และรักษาสมดุลของไนโตรเจนในผู้ใหญ่ ช่วยคอลลาเจนในการทำให้กระดูกอ่อน ต่อกับเนื้อเยื่อช่วยในการสร้างภูมิต้านทานโรคให้มีความสามารถต่อสู้ไข้หวัดและการขยายตัวของผิวหนังพุพอง ลดไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้เจริญอาหาร เพิ่มความจำ ช่วยในการพัฒนาของสมอง และช่วยเพิ่มพลังงาน
• อะลีนีน: เป็นส่วนประกอบของวิตามิน B5 (Pantothenic Acid) ช่วยในการทำงานของเอ็มไซน์ต่างๆ ทำให้ผนังเซลล์แข็งแรง
• อาร์จินีน: ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และการทำงานของต่อมไทมัสจะทำหน้าที่ในการผลิตเม็ดเลือดขาว ช่วยในการผลิตสารอินซูลิน กระตุ้นความต้องการทางเพศช่วยรักษาอาการเป็นหมัน  ช่วยคงความสมดุลของไนโตรเจนช่วยลดไขมันและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ  
• ฮิสทิดีน: ใช้ในการบำบัดโรคไขข้ออักเสบ ภูมิแพ้ กระเพาะอักเสบ และโลหิตจาง จำเป็นต่อการเจริญเติมโต และซ่อมแซมเนื้อเยื่อสำคัญต่อการดูแลรักษาเยื่อไมอีลิน เพื่อป้องกันเซลล์ประสาท และเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับการผลิตของเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว  
• โพรลีน: ช่วยบำรุงผิวพรรณและสร้างคอลลาเจนมีความสำคัญต่อกล้ามเนื้อข้อกระดูกและเส้นเอ็นต่าง เป็นสารเริ่มต้นของกรดกลูตามิก
• เซอรีน: จำเป็นสำหรับขบวนการเผาผลาญไขมัน และระบบคุ้มกัน ช่วยในการสร้างปลอกไขมันป้องกันรอบเส้นใยประสาท  
• ไทโรซีน: ทำให้เซลล์แก่ช้าลงกรดศูนย์ควบคุมความอยากอาหารในสมองส่วนไฮโปทาลามัส รวมทั้งป้องกันเส้นผมและผิวหนังจากการถูกแดดเผา
• แอสพาติค: ช่วยกำจัดแอมโมเนียและกำจัดสารพิษอื่นๆในระบบโลหิต  ช่วยในการทำงานของ DNA RNA และการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยส่งเสริมการแปรรูปคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานภายในเซลล์
• กลูตามิก: เป็นสารส่งผ่านประสาท ช่วยให้เจริญอาหาร และทำหน้าที่เลี้ยงเซลล์สมองได้ดีมากควบคุมภาวะกรดด่างในเลือด ช่วยรักษาไขข้ออักเสบ โรคกระเพาะและลำไส้ผิดปกติ โรคมะเร็ง ลมชัก จิตระแวง สมรรถภาพทางเพศเสื่อม ป้องกันการฝ่อลีบตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค
• ไกลซีน: ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคมเซียมได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดลมชัก และช่วยรักษาอาการซึมเศร้า เพิ่มพลังงาน และการใช้ออกซิเจนในเซลล์เป็นสารส่งผ่านประสาท
• ซิสทีน: ช่วยในการทำงานของตับอ่อนทำให้ระดับนํ้าตาลในเลือดคงที่
• คาร์นิทีน: ช่วยในการขนย้ยไขมันภายในเซล ในขบวนการเผาผลาญไขมัน และการนำไปใช้มากขึ้น 
• ทอรีน:  ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยขยายหลอดเลือด และให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 

คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) คือกลุ่มแป้งและน้ำตาล กลุ่มนี้ร่างกายจะใช้เป็นพลังงานเป็นหลัก ถ้าใช้ไม่หมดอาหารเหล่านี้ จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย ทำให้อ้วนนั่นเอง สลิมเวลคัดสรรแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพ ดังนี้

• มอลโตเด็กติน (Maltodextrin) แป้งผ่านขบวนการดัดแปลง (Modified starch) มีการย่อยสลายช้ากว่าน้ำตาล ทำให้รู้สึกหิวช้าหรือลดความหิว
• ซูคราโลส (Sucralose) เป็นสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน มีรสชาติเหมือนน้ำตาล แต่มีความหวานประมาณ 600 เท่าของน้ำตาล ไม่มีรสขมติดลิ้น ใช้ปรุงอาหารบนเตาโดยไม่สูญเสียรสชาติความหวาน มีความปลอดภัยสูง ปัจจุบันได้รับการยอมรับจากสถาบันนานาชาติต่าง ๆ เช่น JECFA แห่งองค์การอาหารและยา และองค์การอนามัยโลก คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ใช้เป็นสารให้ความหวานในผลิตภัณฑ์อาหาร  เครื่องดื่ม  ผลิตภัณฑ์ขนม และอาหารทางการแพทย์ทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยด้วย ซูคราโลส จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ใช้ได้กับทุก ๆ คน รวมทั้งสตรีมีครรภ์ แม่ที่ให้นมลูก ตลอดจนเด็กทั่วไป
• ใยอาหาร (Fiber)สูง 17% ทั้งชนิดละลายน้ำและชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ให้พลังงาน ประกอบด้วย

1. อินูลิน(Inulin) 15% ไม่สามารถถูกย่อยโดยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหาร มีผลดีต่อสุขภาพ คือ จะผ่านไปที่ลำไส้ใหญ่ในสภาพที่สมบูรณ์จึงไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ที่สำคัญเป็น Prebiotic พรีไบโอติก ถือว่าเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำและเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ช่วยเพิ่มกากในระบบทางเดินอาหารลดคอเลสเตอรอลและป้องกันมะเร็งในทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมที่ดูดซึมได้นั้นยังเข้าสู่กระดูกซึ่งเป็นบริเวณที่ต้องการแคลเซียมโดยตรง ขณะที่แคลเซียมส่วนเกินซึ่งมากกว่า 70% จะถูกขับออกมาจากร่างกาย
2. เส้นใยถั่วเหลือง(soy fiber)2% เป็นเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำช่วยทำให้อุจจาระนิ่มป้องกันท้องผูก จะดูดซับน้ำทำให้รู้สึกอิ่มไม่หิว ส่งผลให้รับประทานอาหารได้น้อยลง

สลิมเวล ภายใต้เครื่องหมายการค้าโปรเวล ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เพราะการบริโภคน้ำตาลมีผลต่อการสร้างไตรกลีเซอไรด์ในตับ และลำไส้เล็กเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและมีผลเพิ่มไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และลดไขมันชนิดดี (HDL)

       ใน 1 แก้ว (250 มล.) ของสลิมเวลจะมีคาร์โบไฮเดรต 24.95 กรัม คิดเป็น 46% ของพลังงานทั้งหมด

ไขมัน (FAT) เป็นสิ่งจำเป็นเพราะเป็นส่วนประกอบหลักของผนังเซลล์ ฮอร์โมน และสมองของเรา ไขมันเป็นสิ่งจำเป็น แต่เราก็ไม่ต้องการมากเกินไป เพราะถ้าเกินก็กลายเป็นไขมันสะสม เพียงแต่ว่าเราต้องเลือกรับประทานให้ถูกต้อง โปรตีนและไขมัน นั้นย่อยช้า ใช้เวลาย่อยประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง และยังช่วยทำให้แป้งและน้ำตาลย่อยช้าลง จึงทำให้อิ่มนาน เพราะเหตุนี้ไขมันจึงมีส่วนช่วยลดความอ้วนได้ โดยทำให้รู้สึกหิวช้า เพราะโอกาสการสะสมของไขมันจะลดลงไปด้วยแต่ต้องเลือกไขมันที่มีคุณภาพและมีกรดไขมันจำเป็นพอเพียงกับความต้องการของร่างกายซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์โดยเฉพาะไขมันไม่ดี (LDL) สลิมเวลคัดสรรแหล่งไขมันคุณภาพจาก

• มีเดียมเชนไตรกลีเซอไรด์ (MCT) : เป็นไตรกลีเซอร์ไรด์สายปานกลาง มีโมเลกุลเล็กจึงดูดซับได้ง่ายร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เลย เกิดการเผาผลาญอย่างรวดเร็ว พร้อมปลดปล่อยพลังงานออกมาให้ร่างกายจึง เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในลำไส้มากเกินไป และผู้ที่ไม่สามารถย่อยไขมันชนิดสายยาวได้ มี 19% ของแหล่งไขมันทั้งหมด และ 84% ของไขมันอิ่มตัวที่มีในอาหารสลิมเวล มาจาก MCT จึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของการสะสมของไขมันอิ่มตัว เพราะ MCT ถูกปล่อยออกมาเป็นพลังงานทั้งหมด
• น้ำมันคาโนล่า  : มีโอเมก้า 9(กรดโอเลอิก) สูง เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) มีผลในการลดคอเลสเตอรอล และ LDL (ไขมันชนิดไม่ดี) มี 46% ของแหล่งไขมันทั้งหมด สลิมเวลจึงมีกรดไขมัน MUFA หรือกรดโอเลอิก 9% ของพลังงานทั้งหมดที่มาจากไขมัน
• น้ำมันดอกทานตะวัน : มีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 สูง เป็นไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่ง (PUFA) ช่วยลดคอเลสเตอรอลรวม และ LDL (ไขมันชนิดไม่ดี) มี 35% ของแหล่งไขมันทั้งหมด
• โอเมก้า 3 : เป็นกรดไขมันจำเป็นต้องได้รับจากอาหารเพราะร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ มี EPA ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ก็จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจโดยตรง ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ดีขึ้นและลดการติดเชื้อในร่างกายและมี DHA สารสำคัญต่อการทำงานและการพัฒนาการของสมองและจอตา 

ในสารอาหารสลิมเวล มีอัตราส่วนของ โอเมก้า6(กรดไขมันไลโนลีอิก) ต่อ โอเมก้า3(กรดไขมันไลโนลินิก) เท่ากับ 6 ต่อ 1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมให้ร่างกายนำเข้าสู่ขบวนการ เผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพและมากขึ้น จึงสามารถนำไปใช้งานได้อย่างเต็มที่     

       ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสลิมเวล จะมีไขมัน 6.06 กรัม คิดเป็น 25% ของพลังงานทั้งหมด

ตารางไขมันแต่ละชนิดในสลิมเวลอาหารทดแทนมื้ออาหารสูตรควบคุมและลดน้ำหนัก

 ^*อ้างอิง : จากหนังสือโภชนาศาสตร์เบื้องต้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 สลิมเวล อาหารทดแทนมื้ออาหาร เครื่องหมายการค้าโปรเวล มีสารอาหารครบถ้วน และยังมีค่าการกระจายตัวของพลังงานจากสารอาหารหลัก(แมคโครนูเทรียน) โปรตีน 29% คาร์โบไฮเดรต 46% และไขมัน 25% ตรงตามหลักวิชาการทางการแพทย์ แล้วยังประกอบด้วย สารอาหารรอง (ไมโครนูเทรียน) ที่มีความสำคัญอีกหลายชนิดทั้งแร่ธาตุ14ชนิด วิตามิ15ชนิด และสารอาหารเสริมที่ดี (Dietary supplement) ซึ่งช่วยประสานการทำงานกับสารอาหารหลัก ดังนี้

วิตามิน

• วิตามิน เอ(Vitamin A) ช่วยบำรุงสายตาในการมองเห็นภาพเวลากลางคืนกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมและรักษาเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีวิตามินเอ 631.80 ไมโครกรัม อาร์อี
• วิตามิน ซี (Vitamin C) มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเสื่อมของเซลล์และการเกิดเซลล์มะเร็ง จำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีวิตามินซี 63.10 มิลลิกรัม
• วิตามิน ดี (Vitamin D) ช่วยให้ร่างกายเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสไปใช้เสริมสร้างกระดูกและฟัน - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีวิตามินดี 8.32 ไมโครกรัม
• วิตามิน อี (Vitamin E) มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเสื่อมของเซลล์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้  - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหาร สลิมเวล จะมีวิตามินอี 12.16 มิลลิกรัม แอลฟาร์ ทีอี
• วิตามิน บี รวม(Vitamin B complex) ได้แก่ วิตามิน บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 และบี12 มีความสำคัญในกระบวนเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงานเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกาย บำรุงสมอง คลายเครียดช่วยให้อวัยวะรับสัมผัสทำงานดีขึ้น วิตามิน บี จะให้ผลดีเมื่อทำงานร่วมกันหลาย ๆ ชนิดดังนั้นการทำงานของวิตามิน บี รวม จะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้เดี่ยว ๆ            - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีวิตามินบีรวม ไม่น้อยกว่า 30% ของปริมาณที่แนะนำตามที่คณะกรรมการอาหารและยากำหนด
• วิตามิน เค (Vitamin K) มีส่วนช่วยสร้างสารที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด และช่วยลดการสลายแคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหาร สลิมเวล จะมีวิตามินเค 18.95 ไมโครกรัม
• กรดโฟลิค (Folic Acid) จำเป็นต่อการเสริมเม็ดเลือดแดง ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและบรรเทาภาวะซึมเศร้า - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีกรดโฟลิก 222.00 ไมโครกรัม
• ไบโอติน (Biotin) ช่วยเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน มีส่วนสำคัญในระบบการสร้างสายพันธุกรรมทำให้ร่างกายสามารถสร้างเซลล์ผิวหนัง ผมและเล็บใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไป ป้องกันผมหงอกก่อนวัยและอาการเล็บเปราะ - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีไบโอติน 291.24 ไมโครกรัม

แร่ธาตุ

• แคลเซียม (Calcium) จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และการส่งกระแสประสาท - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีแคลเซียม 255.51 มิลลิกรัม
• ฟอสฟอรัส (Phosphorus) มีบทบาทร่วมกับแคลเซียมในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีฟอสฟอรัส  589.51 มิลลิกรัม                                                                                                                *แร่ธาตุของสารอาหารสลิมเวลได้มาจากแร่ธาตุธรรมชาติสกัดจากนม (Milk Mineral Complex) จึงได้อัตราส่วน แคลเซียม : ฟอสฟอรัส = 2 : 1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนสมดุลเท่ากับแร่ธาตุในกระดูกของร่างกายจึงสามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และมีประสิทธิภาพสูง
• เหล็ก (Iron) จำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงและช่วยขนส่งออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีเหล็ก 5.06 มิลลิกรัม
• แมกนีเซียม (Magnesium) เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์ในการสร้างพลังงาน บำรุงกระดูกและฟัน ให้แข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีแมกนีเซียม 99.81 มิลลิกรัม
• ไอโอดีน (Iodine) เร่งการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลให้เป็นพลังงานโดยผ่านการทำงานของไทรอยด์ฮอร์โมน - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีไอโอดีน 63.42 ไมโครกรัม
• สังกะสี (Zinc) มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนเพศชาย จำเป็นต่อการสร้างเอนไซม์ Super Oxide Dismutase ซึ่งออกฤทธิ์เป็นสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น กระตุ้นระบบภูมิคุ้มและช่วยสมานแผล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมี สังกะสี 3.55 มิลลิกรัม
• ซิลิเนียม(Selenium) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดต่อมลูกหมากโตโดยทำงานร่วมกับวิตามินอี และสังกะสี - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมี ซิลิเนียม 7.98 ไมโครกรัม
• ทองแดง (Copper) เกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง กระบวนการสมานแผลการสร้างสีผมและผิวหนัง - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารละลายสลิมเวล จะมีทองแดง 0.52 มิลลิกรัม
• แมงกานีส (Manganese) เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์หลากชนิด การสร้างฮอร์โมนเพศและการทำงานของระบบประสาท - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีแมงกานีส 0.49 มิลลิกรัม
• โมลิปดินั่ม (Molybdenum) เกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์ บำรุงสุขภาพของเพศชายป้องกัน การเป็นหมัน - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโมลิปดินั่ม 11.20 ไมโครกรัม
• คลอไรด์ (Chloride) รักษาสมดุลของของเหลวในร่างกาย ช่วยกระบวนการย่อยอาหาร - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีคลอไรด์ 315.60 มิลลิกรัม
• โปแตสเซียม (Potassium) รักษาสมดุลเกลือแร่และความเป็นกรดด่างในร่างกายช่วยการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อหัวใจ  - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโพแทสเซียม  607.45 มิลลิกรัม
• โซเดียม (Sodium ) ทำงานร่วมกับโปแตสเซียมในการรักษาสมดุลของกรดด่าง อิเลคโตรไลทในร่างกาย - ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโซเดียม 533.74 มิลลิกรัม

สารอาหารเสริมเร่งการเผาผลาญพลังงานในสลิมเวล

• แอล-ฟีนิลอะลานีน เป็นกรดอะมิโนที่เร่งการปลดปล่อยฮอร์โมน ที่ควบคุมความอยากอาหาร 

      ใน 1 แก้ว (250มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีแอล-ฟีนิลอะลานีน 0.73 กรัม

• โคลินและอินโนซิทอล ออกฤทธิ์เป็นสารไลโปโทรปิค (Lipotropic) ป้องกันการสะสมของไขมันและช่วยนำไขมันและคอเลสเตอรอลไปใช้ ช่วยในการลดน้ำหนักโดยการสลายและป้องกันการก่อตัวของไขมัน 

       ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโคลิน 16.87 มิลลิกรัม และ อิโนซิทอล 130.78 มิลลิกรัม

• แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) และไฮโดรไลเซทฟิชคอลลาเจน เป็นกลุ่มที่ช่วยเร่งและกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน มี 0.66% และ 5% ตามลำดับ ในสูตรส่วนประกอบของสลิมเวล
• โครเมียม (Chromium) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้หิวช้า 

      ใน 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ของสารอาหารสลิมเวล จะมีโครเมียม 41.95 ไมโครกรัม

                                 "การรับประทานอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่ (Balanced Food) จะทำให้ลดความอ้วนได้ง่าย                                                                                  และมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องท ไม่ต้องเครียดจากการอดและหิวอีกต่อไป"

ตารางแสดงสารอาหารใน สลิมเวล   

การกระจายตัวของพลังงานจาก คาร์โบไฮเดรต :โปรตีน :ไขมัน  = 46: 28 : 26

* ร้อยละของสารอาหารสลิมเวลเปรียบเทียบกับปริมาณที่แนะนำต่อ 1000 กิโลแคลอรี ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการอาหารและยา ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 121 (พ.ศ. 2532) ข้อ2 (1) เรื่องอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดและควบคุมน้ำหนัก ใช้รับประทานทดแทนอาหารที่ใช้รับประทานตามปกติใน 1 มื้อ หรือทดแทนอาหารทั้งวัน

** ข้อกำหนดของปริมาณที่แนะนำต่อ 1000กิโลแคลอรี ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 121 (พ.ศ.2532) ข้อ 2 (1)

*** ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 121 ข้อ 2 (1) ไม่ได้กำหนด

สลิมเวล ไม่เพียงแต่มีเป้าหมายการควบคุมและลดน้ำหนักเท่านั้น หากแต่ยังมีเป้าหมายที่จะช่วยเสริมสร้างสภาวะภายในร่างกายให้สมดุลดีขึ้น เช่น การเสริมสร้างกระดูก การช่วยลดไขมันชนิดเลว ได้แก่โคเลสเตอรอล และ LDL, ระบบหัวใจ ระบบการขับถ่าย ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และอื่นๆ  ทั้งนี้สลิมเวลได้ผ่านขบวนการทดสอบจากคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล กับผู้ป่วยโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อ) เช่น ผู้ป่วยโรคอ้วนลงพุง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ความดันสูง เป็นต้น และได้รับผลลัพย์ที่ดีมากทุกด้าน ดังสรุปตารางดังนี้; 

หมายเหตุ: ข้อมูลในตาราง เปรียบเทียบกับบรรทัดฐานและที่ 12 สัปดาห์ในแต่ละกลุ่มตัวอย่าง 

สรุปผล

1. เฉลี่ยน้ำหนักตัวลดลงประมาณ 2 กก.ในเดือนแรก
2. รอบเอวลดลง 4.0 ซม.
3. ค่าFasting insulin ลดลง 2.17 µU/ml 
4. ดัชนีการต้านทานอินซูลลิน ลดลง 0.67 
5. ความดัน(ช่วงหัวใจคลาย) ลดลง 6 mmHg 
6. ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือก(FPG) ลดลง 4 mg/dl  
7. ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์(TG) ลดลง 11 mg/dl 

(ข้อมูลจากผู้ป่วยNCDs 70ราย โดยทานสลิมเวล 2มื้อต่อวัน เป็นเวลา 12สัปดาห์)

 สามารถผสมเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้ตามความต้องการและปรับปริมาณน้ำร้อน ได้ตามรสชาติที่ชอบ

การเตรียมและการเก็บรักษา

1. ล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียมอาหาร
2. เตรียมภาชนะที่สะอาดสำหรับเติมสลิมเวล (ควรเป็นภาชนะที่มีฝาปิด)
3. เตรียมสลิมเวลปริมาณพลังงานตามต้องการ (ดูจากตาราง^*) ใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
4. สามารถผสมเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้ตามต้องการ

     4.1 วิธีชงเครื่องดื่มร้อน  เติมน้ำร้อน (ประมาณ 70 องศาเซลเซียล) ปริมาณ 210 มิลลิลิตร ลงในสลิมเวลที่เตรียมไว้  (3 ช้อนตวง = 60 กรัม^***) คนหรือเขย่าจนละลายเข้ากันดี (ประมาณ 2-3 นาที) จะได้สารอาหารสลิมเวล 250 มิลลิลิตร ควรปิดฝาภาชนะตลอดเวลา เพื่อรักษาอุณหภูมิ รสชาติ และสารอาหาร 

ดูตารางการผสม	ตักสลิมเวล 3 ช้อน*	เติมน้ำร้อน 210 มล. ลงในภาชนะที่เตรียมไว้	คนหรือเขย่าให้เข้ากันดี	สลิมเวลพร้อมดื่ม (250 มล.) ให้พลังงาน 218 กิโลแคลอรี

    4.2 วิธีชงเครื่องดื่มเย็นและปั่น  เติมน้ำร้อน (~70 องศาเซลเซียล) ประมาณ ½ แก้ว (100 มล.)**  ลงในสลิมเวล (3 ช้อนตวง = 60 กรัม*) คนหรือเขย่าให้เข้ากันดี (ประมาณ 2-3 นาที) เติมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดเพื่อเพิ่มความสดชื่นและรสชาติตามความชอบ ถ้าจะดื่มเป็นเครื่องดื่มปั่นให้เทส่วนผสมสลิมเวล และน้ำแข็งที่เตรียมไว้ ลงในเครื่องปั่น ปั่นพอให้น้ำแข็งก้อนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง จะได้เครื่องดื่มปั่นรสชาติตามที่คุณชอบ                                                                                          

       1 ช้อนตวง  มีผงสลิมเวล  20 กรัม ผสมน้ำร้อน 70 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 72.67 กิโลแคลอรี       

^** สำหรับเครื่องดื่มเย็นและปั่นควรลดปริมาณน้ำร้อน^*ลง ½ จากตารางการผสมอาหาร จะทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้น

ในกรณีที่ต้องการปรับเพิ่มปริมาณพลังงาน เช่น การรับประทานอาหารระหว่างมื้อ ก่อนมื้ออาหาร หรือต้องการพลังงานมากกว่า 218กิโลแคลอรี ต่อมื้ออาหาร สามารถกำหนดได้โดย  1 ช้อนตวง ของปริมาณผงสลิมเวล ผสมน้ำร้อน 70 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 72.67 กิโลแคลอรี ดังนั้น สามารถเพิ่มจำนวนช้อนตวงตามปริมาณที่ต้องการและผสมน้ำร้อนตามอัตราส่วนในตารางการผสมอาหาร*

5.อาหารที่ผสมแล้วควรรับประทานทันที

6. หากไม่รับประทานทันที ควรเทใส่ภาชนะที่สะอาดแล้วปิดฝาเก็บไว้ในตู้เย็น (อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียล) นำมาอุ่นก่อนรับประทาน และไม่ควรเก็บไว้เกิน 24 ชั่วโมง

7. รับประทานทดแทนมื้ออาหารวันละ 1 มื้อ เพื่อควบคุมน้ำหนัก รับประทานทดแทนมื้ออาหารวันละ 2 มื้อ เพื่อลดน้ำหนัก

เปรียบเทียบการรับประทานอาหารปกติกับอาหารสำเร็จรูป สลิมเวล

อาหารปกติ 1 มื้อ พลังงาน 500-800 kcal	สลิมเวล 1 แก้ว / 1 มื้อ พลังงาน 218 kcal
	ประกอบด้วย :  โปรตีนสูง 26% ใยอาหารสูง 19% แคลเซียมจากธรรมชาติสูง ,คาร์โบไฮเดรตต่ำ(ไม่เติมน้ำตาล) ไขมันต่ำเกลือแร่ วิตามิน และ สารเสริมอาหาร 7%
รสชาติอร่อย แต่ได้รับพลังงานเกิน ส่งผลให้อ้วนง่าย อาจได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนโปรตีนน้อย คาร์โบไฮเดรต และไขมันสูง ไม่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่รับประทาน คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ ขบวนการปรุงอาหาร  สภาวะของร่างกาย สิ่งแวดล้อม และความรู้ความเข้าใจในการเลือกรับประทานอาหาร	ชงง่าย รสชาติอร่อย ข้าวโพด กาแฟ ชาเขียว โกโก้ กำหนดพลังงานได้ชัดเจนให้สารอาหารครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและมีกรดอะมิโนครบถ้วน 20 ชนิด โดยให้พลังงานต่ำเพียง 218 กิโลแคลอรี/1 แก้ว (250 มิลลิลิตร)/มื้อ  สูตรเฉพาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการลดและควบคุมน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร +โอเมก้า 3 + 6 + 9 +อินูลิน +เส้นใยจากถั่วเหลือง +คอลลาเจนไฮโดรไลเซทจากปลาทะเล +แอลฟีนิลอะลานีน +อาร์จีนิน +คาร์นิทีน  +ทอรีน +แร่ธาตุนมซึ่งมีแคลเซียมสูงถึง255.51 มก./1 แก้ว *ผ่านการรับรองทางการแพทย์แล้วว่าช่วยลดน้ำหนัก ลดน้ำตาลในเลือและไขมันในเลือดได้จริง
อร่อย ถูกปาก ถูกใจ แต่อาจอ้วนง่าย ไม่ดีต่อสุขภาพ	สะดวก  อิ่มท้อง  ปลอดภัย มั่นใจ  คุมน้ำหนักได้

สลิมเวล  เครื่องหมายการค้าโปรเวล อาหารทดแทนมื้ออาหาร สูตรอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมและลดน้ำหนัก ช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้โดยสอดคล้องกับหลักวิชาการทางการแพทย์และโภชนาการ  มีตารางแสดงปริมาณสารอาหารและพลังงานอย่างชัดเจน ทำให้คุณสามารถควบคุมปริมาณพลังงานที่รับประทานในแต่ละวันให้ได้ประมาณ 800-1200 กิโลแคลอรีได้แน่นอน สลิมเวลให้สารอาหารที่ครบถ้วนและมีใยอาหารสูงทำให้เราไม่รู้สึกหิว ซึ่งจะทำให้การควบคุมปริมาณพลังงานจากอาหารเป็นเรื่องง่ายขึ้น และการที่สลิมเวลมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ไม่มีน้ำตาลในสูตรส่วนประกอบ รวมทั้งเสริมสารอาหารช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็วขึ้น

ด้วยหลักการดังกล่าว เราก็จะสามารถลดน้ำหนักลงได้เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ส่งผลให้การ เผาผลาญพลังงานของร่างกายเราลดลง และอาจช่วยปรับปรุงระดับการเผาผลาญที่เสียไปให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ไม่มีการกลับมาอ้วนได้อีกหรืออาการโยโย่นั่นเอง อีกทั้งรูปร่างยังได้สัดส่วน เนื่องจากสลิมเวลมีโปรตีนคุณภาพดีสูงส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งแรงไม่หย่อนยาน (ซึ่งต่างจากการลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร) หุ่นฟิตและเฟริม์อย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญอาการต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาสำหรับคนอ้วน เช่น เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ กรน  หยุดหายใจขณะนอนหลับ  ปวดหลัง ปวดเข่า ข้อเข่าข้อเท้าเสื่อมเร็ว  หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้น  กลิ่นตัวแรง   อาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้เรากลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิมหรือดีขึ้นกว่าเดิม

• ขนาดบรรจุ : 480กรัม/กระป๋อง (8 มื้อ)
• ข้อควรระวัง : ไม่เหมาะแก่ผู้แพ้โปรตีนจากนม ปลา ถั่วเหลือง
• ติดต่อศูนย์โภชนโปรเวล 085-0597478 หรือ ไลน์ : @prowell_nutritions

เพื่อให้คุณสามารถควบคุมหรือลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพควรทำการจดบันทึกปริมาณอาหารและพลังงานที่รับประทานพร้อมทั้งน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันจะทำให้ทราบว่าการรับประทานอาหารของคุณเป็นอย่างไรเพื่อเป็นการประเมินตนเองเบื้องต้น โดยสามารถตรวจเช็คค่าพลังงานของอาหารแต่ละชนิดได้ที่  คู่มือ “หุ่นสวย  ได้สุขภาพ  ด้วยสลิมเวล”